ตอนเด็ก ๆ เคยเรียนลูกเสือสำรองกันมั้ยครับ ?
แล้วคุณจำขั้นตอนต่าง ๆ ของลูกเสือสำรองได้มั้ย ว่าหลังจากเข้าแถวกันแล้วต้องทำอะไรบ้าง ?
ถ้าหากตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้กำกับลูกเสืออยู่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครจำขั้นตอนอันยุ่งยากที่เรียนครั้งสุดท้ายตอนประถมต้นกันได้หมด
จากการประชุมคณะครูครั้งแรกวันนั้น ครูใหญ่ (คนอื่นเรียกผอ.แต่ผมเรียกครูใหญ่) อยากจะให้ผมสอนลูกเสือ อาาาห์ ผมจบการสอนภาษาไทยสาขามัธยมศึกษานะครับ ลำพังให้สอนทุกวิชาก็ลำบากแล้ว แต่ด้วยเลือดครูที่ฝังแน่น และความตั้งใจแน่วแน่เพื่อเด็กไทย ผมจึงตอบไปว่า
“ขอดูก่อนได้มั้ยครับ” แหม่
คือมันจำไม่ได้จริง ๆ ครับ ว่ามีขั้นตอนอะไรยังไง ถ้าอินเทอร์เน็ตที่โรงเรียนพอจะใช้การได้ก็พอจะหาขั้นตอนในกูเกิ้ลได้บ้าง แต่ตอนนี้เริ่มมืดแปดทิศ เวลาเข้าแถวจะเรียกว่าอะไร แล้วไหนจะต้องไปหาชุดมาใส่มั้ย ใส่ชุดลูกเสือครั้งสุดท้ายก็สามัญรุ่นใหญ่ ตอนม.3 นี่ก็ 8 ปีเข้าให้แล้ว ให้สอนวิทย์ คณิต อังกฤษ เกษตร อะไรยังงี้มันยังพอนอกกรอบนอกกฎได้บ้าง
นั่นแหละครับ ขอดูก่อน เพื่อทบทวนความจำ
บทบาทแรกของผมก็เลยเป็นผู้ช่วยคุณครูวิชัย ครูประจำชั้น ป.4 ที่รับสอนลูกเสือสำรองแต่เดิมมาครับ
บ่ายวันพฤหัสฯ เป็นเวลาเรียนลูกเสือ ลูกเสือสามัญ (ชั้นป.4-ป.6) จากโรงเรียนบ้านป่าสักงามเดินทางจากโรงเรียนมาร่วมเรียนลูกเสือด้วย (เรียนรวมกันจะได้เยอะ ๆ ตั้งแถวรูปครึ่งวงกลมได้ง่าย) ครูวิรัตน์แห่งโรงเรียนบ้านดอยเป็นผู้สอนครับ ภาษาลูกเสือเรียกว่า ผู้กำกับ (อ่ะ ยังพอจำได้) ครูวิรันต์แต่งเครื่องแบบลูกเสือเต็มยศครับ ต่างจากครูวิชัยที่เป็นชุดทำงานธรรมดา
ตอนนี้ลูกเสือสามัญลงสนามแล้วและกำลังทำพิธีหน้าเสาธง ดูแล้วเป็นระเบียบมากครับ
ตัวที่เดินอยู่นี่สีคล้าย ๆ แต่ไม่ใช่ลูกเสือนะครับ
ผมยืนดูลูกเสือสามัญสักพักก็เห็นการรวมตัวกันของลูกเสือสำรองแล้วครับ จึงรีบไปที่ลูกเสือสำรองทันที เพราะเป็นหน้าที่ ที่ผมจะต้องรับดูแลต่อไปครับ
ครูวิชัยเลือกพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของสนาม เพราะเป็นที่ร่ม แม้ว่าตรงนั้นจะเป็นพื้นที่ ที่ลุงมานพ ภารโรง ใช้เลี้ยงวัวและควายก็ตาม
ก่อนการเข้าแถวมีเรื่องชุลมุนเล็กน้อยครับ เพราะลูกเสือสำรองน้องใหม่จำหมู่ตัวเองไม่ได้ครับ หลายคนแย่งกันเป็นลูกหมู่ของเด็กชายคอม ชั้นป.3 อาจจะด้วยบุคลิกความเป็นผู้นำของเขาก็ได้ครับ ที่ทำให้หลายคนอยากย้ายมาสังกัดด้วย
เด็กชายคอม นายหมู่ หมู่หมีขั้วโลก (ตั้งชื่อหมู่เองซะด้วยนะครับ)
แต่ก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะทั้งหมดครับเพราะเด็กชายอาโนล์ ชั้นป.1 (ลูกชายคุณครูวิยะดา สอนป.2) ยืนยันหนักแน่นว่าสัปดาห์ก่อนไม่ได้อยู่หมู่เดียวกับนายคอม
ผมคงจะคิดว่าเรื่องแบบนี้มันสับสน จับผิดจำถูกกันได้
ถ้าหากเด็กชายอาโนล์ไม่ได้เป็นรองนายหมู่หมีขั้วโลก เมื่อคราวก่อนครับ เอิ่ม – -”
(เจ้าตัวบอกว่าอยากเป็นหัวหน้าหมู่เองอีกด้วย)
สุดท้ายก็ต้องแบ่งหมู่กันใหม่ครับ ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างก็แล้วแต่บุคคลไป ดูจากท่าทางและสีหน้าก็พอรู้ครับ
ชุดลูกเสือของนักเรียนบางคนมีครบบ้างไม่ครบบ้างนะครับ ตามแต่ทางบ้านจะมีกำลังซื้อให้ แต่เจ้าเด็กชายเจ ที่ยืนทำท่าเก๋า ๆ นั้นผมต้องเรียกออกมาคุยข้างนอกเลย ดูการแต่งตัวเอานะครับ ไม่ต้องบอกเลยว่าคนไหน ต้องเชิญออกมาปรับทัศนคติข้างนอกกันพักใหญ่
ส่วนนี่ก็เด็กชายเกม ชั้นป.1 ครับ
หน้าตาตุ้ยนุ้ย ไม่เหมือนเด็กแถวนี้นะครับ แต่การแต่งตัวเห็นครั้งแรกนี่คิดว่าเก๋าเลยนะครับ ไม่ติดกระดุมแถมยังเหยียบส้นรองเท้าอีกพอเรียกออกมาคุยถึงได้รู้ว่าเกมเป็นเด็กฉลาดนะครับ กระดุมที่ติดไม่หมดเนี่ย เพราะว่ากระดุมมันหลุดครับ เสื้อตั้งแต่อนุบาล รองเท้าที่เหยียบส้นก็เพราะว่ามันเล็กจนคับ ใส่เข้าไปทั้งหมดไม่ได้นั่นเอง
ครูวิชัยทบทวนท่าคำสั่งเข้าแถวให้แก่ลูกเสือสำรองตัวน้อย ๆ การเรียนการสอนเป็นไปอย่างคึกคัก เอ่อ….
เอาน่า มันต้องมีกันบ้างเนอะ อิอิ
ลูกเสือสำรองพวกนี้อย่าเรียกว่าลูกเสือเลยครับ เรียกว่าลูกลิงจะถูกกว่า หรือไม่ก็ลูกปู เพราะว่ายิ่งกว่าจบปูใส่กระด้งอีกครับ กฎของลูกเสือมีดังนี้นะครับ
ข้อ 1 ลูกเสือสำรองทำตามลูกเสือสำรองรุ่นพี่
ขอบคุณมากครับสำหรับกฎข้อ 1 เพราะสักพักมันก็เป็นอย่างที่เห็น
เรียกได้ว่าทำตามกฎกันอย่างเคร่งครัดเลยทีเดียว
ส่วนกฎอีกข้อคือ
ข้อ 2 ลูกเสือสำรองไม่ทำตามใจตัวเอง
อย่าให้พูดถึงการปฏิบัติตนของลูกเสือสำรองโรงเรียนบ้านดอยตามกฎข้อนี้เลยครับ น้ำตาจะไหล…
เมื่อเราคุมเข้มมากขึ้น ลูกเสือสำรองเหล่านี้ก็เริ่มเป็นผู้เป็นคนเป็นเสือเป็นสางครับ แววตาที่มุ่งมั่นของพวกเขา เหมือนเป็นการให้คำปลอบใจแก่ผม เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็ก และการสอนลูกเสือไม่ใช่เรื่องยาก
จนกว่าจะได้สอนจริง ๆ
ป.ล. รูปสุดท้ายนี่ผมต้องกดปุ่มซูมดูนิ้วเด็กชายเกมครับว่าเขาชูนิ้วอะไร ปรากฎว่าเด็กชายเกมชูสองนิ้วครับ เป็นนิ้วชี้และนิ้วกลางชิดกัน อันเป็นการสื่อความหมายถึงกฎของลูกเสือที่มีสองข้อ เอ๊ะ … หรือว่าคำปฏิญาณตนนะ
ก็บอกแล้วไงครับว่าจำไม่ค่อยได้ แหะ ๆ