ครูบ้านดอย 2 (ตอน สวัสดีดอยหลวง)

เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บอกทางเราอย่างง่าย ๆ ว่าถ้าออกจากสำนักงานเขตนี้ไป
ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอทางแยกไปอำเภอดอยหลวง

ผมเริ่มจำได้คุ้น ๆ แล้วว่าเคยขับรถผ่านทางเข้าอำเภอดอยหลวงและยังถามคนที่นั่งมาข้าง ๆ ว่าเชียงรายมีอำเภอนี้ด้วยเหรอ
ไม่นึกว่าผ่านไปเพียงแค่สองเดือน ผมต้องมาขับรถคอยมองหาป้ายนั้นอีกครั้ง

ผมเดินทางมาพร้อมกับพ่อและแม่ ที่ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยกับสถานที่บรรจุของลูกชายคนโต

เส้นทางไปอำเภอดอยหลวงเป็นทางค่อนข้างดี แต่คดเคี้ยวไปตามม่อนดอยเล็ก ๆ
โซนนี้ของจังหวัดเชียงรายถ้าเทียบกับโซนอื่น ๆ ถือว่าไม่มีดอยสูงครับ แต่ก็แทบจะไม่มีพื้นที่ราบกว้าง ๆ ให้วิ่งยาว ๆ
ผมขับรถเลี้ยวไปมาจนตัวโก่ง ขึ้นลงเหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เป็นความตื่นเต้นและลุ้นว่าหน้าตาของอำเภอดอยหลวงจะเป็นยังไง

ที่มาของชื่ออำเภอดอยหลวง ทราบภายหลังว่ามาจากดอยที่ตั้งตระหง่านเด่นชัดที่สุดในอำเภอ

————————————————–

เราทั้งสามตั้งใจว่า ถ้าเจอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเมื่อไหร่จะแวะทานกันเมื่อนั้น
แต่นี่บ่ายโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีร้านไหนให้เราจอดลงไปลิ้มลองกันได้

“ขึ้นชื่อว่าอำเภอ มันต้องมีร้านก๋วยเตี๋ยวบ้างล่ะ” พ่อพูดให้กำลังใจ
และผมก็เชื่ออย่างนั้น ว่าถ้าเข้าไปถึงตัวอำเภอเมื่อไหร่จะมีก๋วยเตี๋ยวให้กิน

แล้วเราก็มาถึงทางแยก ที่มีป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายเชียงแสน เลี้ยวขวาไปเชียงของ
แม้ว่าอำเภอดอยหลวงจะแยกมาจากอำเภอแม่จัน แต่ดูระยะทางแล้วน่าจะใกล้เชียงแสนมากกว่า

ผมเลี้ยวซ้ายไปตามทางก็เจอที่ว่าการอำเภอ หน้าที่ว่าการอำเภอมีร้านอินเทอร์เน็ตเล็ก ๆ
ร้านซ่อมรถ มีร้านคาราโอเกะแต่เปิดขายอาหารตามสั่งอยู่ตรงสามแยก
ผมเลี้ยวเข้าไปถาม แต่พ่อยังยืนยันว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยว
เราตัดสินใจขับผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอไปอีกนิดคิดว่าคงเจอตลาด ไม่ก็โซนที่มีร้านค้า

แต่เปล่าเลย….

เราได้ซึมซับบรรยากาศนั้นแค่เพียง 200 เมตร หลังจากนั้นฉากข้างทางของเราก็กลับมาเป็นเพียงหมู่บ้านชนบทอีกครั้ง
มีวัด ร้านตัดผม ห้องแถว ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์  และร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ

เยส !

ผมจอดเทียบที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านเล็ก ๆ ใต้ถุนบ้าน มีโต๊ะให้บริการลูกค้าเพียงโต๊ะเดียว
ตอนนั้นเวลาบ่ายแก่ ๆ มีเพียงพวกเราที่เป็นลูกค้า
จากการคุยกับเจ้าของร้าน อำเภอดอยหลวงเพิ่งลบคำว่า กิ่ง ออกจากป้ายบอกทางหลวง เมื่อไม่นานมานี้
เนื่องจากเรื่องเศร้าของครูจูหลิงในครั้งนั้น ทำให้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคือ พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์
ได้มาร่วมงานศพที่บ้านครูจูหลิงและให้คำสัญญากับชาวบ้านว่าจะยกระดับที่นี่ให้เป็นอำเภอครับ (ข้อมูลจากชาวบ้านนะครับ)

สามีเจ้าของร้าน ข้ามถนนจากอีกฟากมานั่งคุยกับพวกเรา เหมือนเป็นแขกมากกว่าลูกค้า
เขามีท่าทียินดีอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าผมเป็นครูที่จะมาบรรจุใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติมอีกอย่างที่ทำให้พวกเราตื่นเต้นกันอีกครั้ง คือโรงเรียนอยู่ห่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปอีก 1 กม. เท่านั้นเอง
ผมแอบกะระยะทางในใจ ถ้าอย่างนั้นโรงเรียนก็อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 2 กม. เท่านั้นเองน่ะสิ

ผมคีบเนื้อไก่ขึ้นมา และเผลอยิ้มมุมปาก โรงเรียนไม่บ้านนอกอย่างที่คิดนี่หว่า…
แต่ไม่ทันที่เนื้อไก่ชิ้นนุ่มจะเข้าปาก สามีเจ้าของร้านก็ให้ข้อมูลใหม่แก่พวกเราอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่ไม่ได้บอกเราไว้ก่อน

“โรงเรียนค่อนข้างกันดารหน่อยนะครู เพราะเป็นหมู่บ้านกระเหรี่ยงครับ” สามีเจ้าของร้านมีสีหน้าเห็นใจ

 

ผมวางตะเกียบลง  แล้วยกแก้วน้ำขึ้นจิบ

นี่เรากำลังจะมีภาษาที่สามแล้วสินะ

 

———————————————————–

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

 

  • กด like แฟนเพจ