ผีเสื้อสมุทรผู้น่าสงสาร

วันหนึ่ง ในคาบเรียนวิชาภาษาไทยท่ามกลางบรรยากาศสายฝนที่เย็นฉ่ำ
เราอยู่กับวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี ตอน “พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร”

ผมและนักเรียนชั้น ม.3 กำลังคุยกันมาถึงตอนที่ว่า “ใครน่าเห็นใจที่สุด” ในเรื่องนี้ครับ


……
ย้อนให้ฟังสักเล็กน้อย สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน หรือเคยอ่านแต่ลืมไปแล้ว
ตอนนี้เป็นตอนแรก ๆ ของเรื่อง หลังจากที่พระอภัยมณีถูกนางผีเสื้อสมุทรจับไปอยู่ในถ้ำอย่างไม่เต็มใจ จนตกเป็นสามีของนางผีเสื้อน้ำอีท่าไหนไม่รู้ และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือสินสมุทร

เจ้าหนูนี่โตมาจนอายุ 8 ขวบ วันหนึ่งขณะที่แม่ไม่อยู่ถ้ำ ด้วยความซุกซนบวกพละกำลังแบบคนที่มีแม่เป็นยักษ์ ก็ลองผลักหินที่นางผีเสื้อสมุทรใช้ปิดปากถ้ำของเด็จพี่ภัยไว้ แล้วออกไปลั้นลา จับปลากระโห้โลมาเล่นจนไปเจอเงือกเฒ่า ด้วยความสงสัยจึงจับตัวมาให้พ่อดูว่านี่มันตัวอะไรกันแน่อ่ะป๊าาา

เงือกเฒ่าก็แสนดี พอได้พบพระอภัยมณีก็เกิดอาการเห็นใจ อาสาจะพาหนีไปพึ่งบารมีพระเจ้าตา (โยคีขมังเวทย์) ยังเกาะแก้วพิสดารซะอย่างนั้น

วางแผนกันเสร็จ พระอภัยมณีก็ใช้อุบายหลอกนางยักษ์ไปถือศีลอดอาหารอยู่ 3 วัน ระหว่างนั้นก็เกาะหลังเงือกประหนึ่งเล่นเจ็ตสกีโต้ลมทะเลไปจนเกือบจะเข้าฝั่ง นางผีเสื้อสมุทรกลับมาถ้ำไม่เจอสามี จึงรู้ว่าถูกหลอก รีบตามไปจนทันกันที่หาดใสทรายสวยร่ำรวย ณ เกาะแก้วพิสดารแบบหวุดหวิด (เงือกเฒ่าผัวเมียโดนจับกินไปเรียบร้อย เหลือแต่เงือกน้อย ที่จะตกเป็นเมียอีกคนของพี่ภัยในเวลาต่อมา)
……..

พอช่วยกันถอดคำประพันธ์จนเข้าใจแจ่มแจ้งกันทั้งเรื่องแล้ว คำถามนี้ก็ทำหน้าที่ชวนให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเมามัน

บ้างก็บอกว่า ครอบครัวเงือกน้อย แหงอยู่แล้วแหละ โดยเฉพาะนางเงือกสาวสวยที่พ่อแม่ถูกจับกิน จนต้องเป็นลูกกำพร้า ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมาช่วยพระอภัยเลยนะ

บ้างก็บอกว่าสินสมุทรก็น่าเห็นใจไม่น้อยนะ คิดดูสิ เหมือนแกอยู่กับแม่ที่แกคิดว่าสวยระดับดารา แต่ต่อมารู้ความจริงว่าทั้งหมดนั่นศัลยกรรมทั้งนั้นเลยนะแก แถมยังต้องทิ้งแม่หนีมากับพ่อ บ้านแตกสาแหรกขาด ตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่เหมือนกัน

บ้างก็ว่า พระอภัยก็น่าเห็นใจไม่น้อย แกคิดดูสิ โดนจับขังอยู่ในถ้ำ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันอยู่ 8 ปี จนถูกนางผีเสื้อย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นชาย พร้อมกับยัดเยียดตำแหน่งผัวให้โดยไม่เต็มใจ

แต่ข้อนี้มีเสียงแย้งว่า นางผีเสื้อแปลงร่างได้นะ แต่ละวันพระอภัยอาจเจอสาวงามแบบไม่ซ้ำหน้าก็ได้ …. (เออเนอะ ก็คิดได้ แอบอิจฉาพระอภัยในจุดนี้นิด ๆ 5555)

บางคนล้ำกว่านั้น บอกว่าคนที่น่าเห็นใจก็คือท่านโยคี ที่นอนให้แขกฝรั่งนวดอยู่ในอาศรมอยู่ดี ๆ ก็มีคน(กับเงือก)ว่ายน้ำมาหา พอลงไปช่วยก็โดนนางผีเสื้อด่าซะเสียหมา กลายเป็นไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาอีก 55555

แต่ละคนก็ว่ากันไปครับ

“แล้วไม่มีใครสงสารนางผีเสื้อสมุทรบ้างเหรอครับ” ผมลองตั้งคำถาม

ความเงียบไม่ใช่ความเงิบ
ความเงียบกำลังบอกผมว่า นักเรียนหลาย ๆ คนกำลังคิดไตร่ตรองถึงนางผีเสื้อสมุทรที่ทุกคนมองข้ามไ

“จะว่าไปมันก็น่าสงสารนะ..”

ก็ใช่น่ะสิ นี่คนถูกผัวทิ้งเชียวนะ…

นักเรียนเริ่มถกกันอีกครั้ง

“นางผีเสื้อสมุทร ทำไปเพราะความรักล้วน ๆ เลยนะแก”
“หวังดีต่อสามี แต่พระอภัยมณีไม่รักตอบ เหมือนโดนหลอกสะงื้ดสะงื้ดป้าบๆ จนมีลูกฟรี ๆ แล้วพอสบโอกาสก็คิดหนี”

“ทำไมพระอภัยไม่ขอไปดี ๆ หนีไปยังงี้มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป แถมพอถูกจับได้ยังจะมีหน้าบอกว่ารักอยู่อีก”

วงสนทนาเริ่มพูดถึงนางผีเสื้อสมุทรต่าง ๆ กันไป

“นางผีเสื้อสมุทรรักใครมากที่สุดครับ”

ผมยิงคำถามนี้ ให้นักเรียนอีกครั้ง
จากบทความในหนังสือ บอกว่า ผีเสื้อสมุทร ผู้รักสามีมากกว่าลูก ได้นำทางให้นักเรียนพร้อมใจกันตอบว่า “พระอภัยมณี”

“ผิดครับ”

คำนี้ทำเอานักเรียนตาโต พร้อมเสียง “หือ” ในลำคอ

“นางผีเสื้อสมุทร รักตัวเองมากที่สุด”

“นางยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้พระอภัยมณีรักก็จริง แต่นางก็ผิดที่ไปลักพาตัวพระอภัยมณีมาอยู่แบบไม่เต็มใจตั้งแต่แรก”

“นางทำทุกอย่าง เพื่ออ้อนวอนพระอภัยมณีกลับไปอยู่ด้วยกัน จนลืมหน้าที่ของคนเป็นแม่ และเสียสติควบคุมตัวเองไม่อยู่”

“ที่ทำทุกอย่างนั้น ก็เพื่อจะให้พระอภัยมณีกลับไป กลับไปให้ตนกักขัง”
.
.
.
.
“….กลับไปเพื่อจะได้ครอบครองพระอภัยไว้แต่เพียงผู้เดียวอีกครั้งยังไงล่ะครับ”

เด็ก ๆ พยักหน้าเห็นด้วย
………….

ผมโยงเข้ากับชีวิตจริงว่าหากนักเรียนมีแฟนแล้วต้องเลิกรากันไป
สิ่งที่คนรักกันต้องทำจริง ๆ ไม่ใช่การเหนี่ยวรั้งเพื่อจะครอบครอง เพราะการทำทุกอย่างเพื่อรั้งไว้แบบนั้น มันไม่ใช่ความรักที่มีต่อคนอื่น แต่มันคือการทำเพื่อตัวเอง สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดนั้นเพราะเรากลัวว่าตัวเองจะเสียใจ หรืออยู่ไม่ได้มากกว่า

ความรักที่แท้จริง คือการปล่อยให้คนที่เรารัก ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาหรือเธอต้องการอย่างมีความสุข...

แม้ความสุขนั้นจะไม่มีเราเป็นส่วนประกอบก็ตาม

…………

หมดคาบแล้ว
เด็ก ๆ เดินจากไป

ผมยังหยุดอยู่กับเรื่องราวในใจ
พร้อมกับกล่าวขอบคุณวรรณคดีเรื่องนี้อีกครั้ง
ที่ให้บทเรียนแก่เด็ก ๆ และผม อย่างที่ผมก็ไม่เคยจะคาดหวังไว้…

เมฆฝนจากภายนอกหน้าต่างได้จางหาย

,,,ผมเข้าใจแล้วครับ

  • กด like แฟนเพจ