ห้องเรียนใต้ดวงอาทิตย์ : ปั่นหลังเรียน จึงได้เรียนรู้

เมื่อวานตอนเที่ยง ๆ เด็ก ๆ ชวนไปปั่นจักรยานครับ บอกว่าจะปั่นข้ามอำเภอ จากพานไปป่าแดด ระยะทางก็ร่วม ๆ สิบกว่าโล

แบบไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ !!

ผมคิดนิดนึง ว่าเย็นนี้มีงานอะไรค้างอยู่บ้าง
ซึ่งแน่นอนว่ามี 5555

แต่โอเค ยังไม่เร่งด่วนนัก ก็เลยตอบตกลง เพราะไม่ได้ปั่นทางไกล ๆ นานแล้ว และอยากออกไปถ่ายรูปสวย ๆ บ้าง

เด็ก ๆ ยังไม่เคยออกทริปไกล ๆ ครับ
ผมจึงเสนอว่าให้ลดระยะทางไปอ่างเก็บน้ำแม่ปืม ซึ่งใกล้กว่าครึ่งนึง แล้วคำนวณเวลาดูก่อน ถ้าไหวและทัน เราค่อยเพิ่มระยะทางวันหลังก็ได้

อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้มืดเร็วมากครับ

กว่าเด็ก ๆ จะเลิกเรียน และกว่าผมจะติวโอเน็ตเสร็จ กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า การเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้นที่เวลา 17.30 น. ซึ่งถือว่าเย็นมาก

จุดมุ่งหมายของผม คือไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินที่อ่างเก็บน้ำแม่ปืม ระยะทางประมาณ 8 กม. ครับ

พวกเราปั่นไปตามเส้นทางตัดผ่านทุ่ง เป็นทางลาดยางมีหลุมบ่อบ้างตามสภาพ แต่ค่อนข้างโอเคครับ มีผมนำทาง ตามด้วยนิว เท็น และพีจัง โดยมีปิงและวิชขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปด้วย คอยเก็บภาพเพื่อน ๆ มีจอดถ่ายภาพบ้าง และรถของพีจังโซ่หลุด แต่เราก็ไปถึงที่หมาย ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

ผมรีบหยิบมือถือมาถ่ายเก็บไว้ และคิดในในว่าถ้ามาไม่ทันภาพนี้ ทริปนี้คงแทบไม่มีความหมาย ระหว่างนั้นผมได้ยินนิวพูดว่า

“เท่ดีนะ ตอนปั่นแล้วมีคนมองมาเนี่ย”

พวกเราหัวเราะ แต่ไม่มีใครพูดอะไร ผมคิดว่าถ้าเจอวัยรุ่นเจ้าถิ่นหมั่นไส้นี่คงเท่ไม่ออก 555

ปิงและวิชบอกให้พวกเราจัดจักรยาน วางท่าทางแล้วถ่ายภาพ ระหว่างนั้นพีจังก็ยืนเทียบดูรถของเพื่อน ๆ แล้วบอกว่าจะไปหาซื้อจักรยานเป็นของตัวเองในวันนี้

พระอาทิตย์ตกดิน แต่ยังพอมีแสงแดง ๆ จับขอบฟ้า

เราถ่ายภาพจนพอใจแล้วก็ปั่นกลับ
ปิงยังคงถ่ายวิดีโอตอนพวกเราปั่น

การปั่นจักรยานวันนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ ในเรื่อง “ที่หมายเดียวกัน” และ “จุดหมายที่ต่างกัน”

ในทริปนี้เราอาจจะมี “จุดหมาย” ที่ต่างกัน

ผมปั่นจักรยานเพื่อจะไปถ่ายภาพ
บางคนปั่นออกกำลังกาย
บางคนปั่นเพื่อลองว่า พรุ่งนี้จะซื้อคันใหม่ดีมั้ย
บางคนอาจจะปั่นแค่รู้สึกว่ามันดี
และบางคนอาจจะตามมาแค่ถ่ายภาพ

แต่เราก็ไปถึง “ที่หมาย” พร้อมกันด้วยความสนุก และอยากจะหาเวลามาปั่นแบบนี้อีก

โดยมีจุดร่วมคือการได้ปั่นจักรยาน

ในการอยู่ร่วมกันในสังคม มีหลายคนที่กำลังเดินบนเส้นทางเดียวกับเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจุดมุ่งหมายของเขาจะตรงกับเรา ซึ่งถ้าจุดหมายต่างกันแล้ว วันหนึ่งเขาอาจจะเปลี่ยนเส้นทาง ไปสู่อีกทางที่จะทำให้เขาถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นก็ได้

แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า หากเราเดินทางไปสู่ที่หมายด้วยกันบ่อย ๆ เป้าหมายของเราอาจจะถ่ายทอดและหลอมรวมกันเข้าสักวัน

ว่าจะลองดูนะครับ