ครูบ้านดอย 1 (ตอน โรงเรียนของครูอยู่ไกลแสนไกล)

ตอนเด็ก ๆ ผมเคยถามตัวเองว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
ผมตอบตัวเองได้ไม่ยากว่า “ผมอยากเป็นครู”

อาจจะเพราะความที่มีทั้งพ่อ น้า อา และญาติ ๆ เป็นครู แล้วเห็นภาพตัวอย่าง
อาจจะเพราะความชอบ ที่จะได้ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่น
หรือแม้กระทั่งอาจจะเพราะคิดว่าเป็นครูมีปิดเทอม น่าจะสบายกว่าอาชีพอื่น

แต่ไม่ว่าจะอยากเป็นครูด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยถามตัวเองเลยสักครั้งนั่นคือ

“ถ้าเป็นครู จะเป็นครูที่ไหน”

————————————

ผมเป็นเด็กทุนครับ

โครงการผลิตครูการศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตร 5 ปี หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า “ครูพันธุ์ใหม่”
เป็นชื่อที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเอาจริง ๆ ก็แทบจะไม่มีอะไรใหม่กว่าหลักสูตร 4 ปีเท่าใดนัก

ข้อดีของการเป็นเด็กทุน คือตอนที่เรียนนั้นได้รับทุนการศึกษา
และจบออกมาด้วยการการันตีตำแหน่งบรรจุตามภูมิลำเนา

แต่ปัญหาก็คือ ดูเหมือนว่าตำแหน่งบรรจุของพวกเรา กับวิชาและสาขาที่เรียนมาจะไม่ค่อยตรงกัน
ปัญหานี้น่าจะมาจากการไม่ได้คุยกันก่อน ของ สพฐ. กับแต่ละสถาบันผลิตครูที่ร่วมโครงการ
บางมหาวิทยาลัยไม่แยกสาขาประถม – มัธยม แต่แยกเฉพาะวิชาเอก
บางมหาวิทยาลัยแยกทั้งวิชาเอก และแยกสาขาวิชา

ของผมเป็นอย่างหลัง

เมื่อต้องเลือกโรงเรียน ผมจึงเลือกที่ใกล้บ้านที่สุด ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมตัวเลือกเดียวของเอกภาษาไทยจังหวัดเชียงราย
เป็นตัวเลือกที่ตรงกับสายที่เรียนมาของผมมากที่สุด

แต่กรรมการและผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนั้นคงคิดว่าเพื่อนอีกคนนั้นเหมาะสมกับโรงเรียนนั้นมากกว่า (บางทีผมก็คิดแบบนั้น)
ผมจึงต้องกอดคอกับความผิดหวัง นั่งดูเพื่อน ๆ โพสต์รูปตอนที่ไปบรรจุโรงเรียนตามภูมิลำเนาของตนเองไปอีกหลายวัน
จนกระทั่งมีประกาศโรงเรียนให้เลือกสมัครสอบสัมภาษณ์อีกครั้ง คราวนี้เหลือเพียงตัวเลือกเดียวนั่นคือ

“โรงเรียนบ้านดอย”

โรงเรียนชื่อสองพยางค์นี้อยู่ในเขตอำเภอดอยหลวง
ซึ่งแม้แต่คนเชียงรายอย่างผมในตอนนั้น ยังต้องเสิร์ชหาข้อมูลจาก google แล้วก็มีข้อมูลแค่เพียงว่า
อ.ดอยหลวงแยกมาจาก อ.แม่จัน อยู่ห่างจากเชียงแสน 20 กว่าโล และเป็นบ้านเกิดของครูจูหลิง

เสิร์ชดูแผนที่จังหวัดเชียงราย ก็ยังเป็นกิ่งอำเภออยู่เลย

ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน ไม่มีข้อมูลใด ๆ  เกี่ยวกับโรงเรียนนี้เลย
ทราบจากเขตแต่เพียงว่าเป็นโรงเรียนประถมขนาดเล็กเท่านั้น
และไม่ว่าจะอย่างไร นี่คือโรงเรียนที่ผมต้องบรรจุตามโครงการแล้วล่ะครับ

—————————————-
ผมยื่นเอกสารชุดเดิมไปที่ สพท.เชียงราย เขต 3 (ณ ตอนนั้นยังไม่แยกเขต ประถม กับมัธยม)
และไม่ถึงสัปดาห์ คำสั่งก็มาถึงที่บ้านในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 ให้ไปรายงานตัวที่เขต

และต้องไปรายงานตัวที่โรงเรียนบ้านดอยในวันที่ 1 มิถุนายน 2552 (ผมนับวันนี้เป็นวันบรรจุ ไม่รู้ว่าที่เขตนับตามผมรึเปล่า 555)

สรุปว่าผมจะต้องไปเป็นครูโรงเรียนบ้านดอย ซึ่งผมเองยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน
และต้องสอนชั้นประถม ซึ่งไม่ใช่สาขาที่ผมจบมาโดยตรง

ในใจผมเริ่มหวั่น ๆ อย่างประหลาด

—————————————-

“ถ้าเป็นครู จะเป็นครูที่ไหน”

ประโยคนี้กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้ทำหน้าที่ตั้งคำถาม
แต่กลับทำหน้าที่เตือนสติผมอีกครั้ง
และถ้ามีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น

ผมว่ามันต้องเป็นเสียงนี้

“นายอยากเป็นครูโดยที่นายไม่เคยคาดหวังไม่ใช่เหรอ ว่าจะเป็นครูที่ไหน
แล้วทำไมนายจะต้องหวั่นใจ ในเมื่อความฝันของนายมันกำลังจะเป็นจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว”

เป็นอันว่าผมมีเวลาอีก 2 วัน เพื่อเตรียมพร้อมทุกอย่าง
ทั้งหาที่พักและการไปสำรวจสถานที่

 

เอาน่ะ บางทีชีวิตเราก็ไม่ควรวางแผนอะไรให้มันนานเกินไปครับ
ผักปลายังชอบกินกันสด ๆ เลยเนอะ
งานนี้ลองไปลุยสด ๆ กันบ้างสักครั้งจะเป็นไร
ประเทศไทยยังมีครูอีกหลายคนที่ต้องบุกป่าฝ่าดงมากกว่าเราอีกตั้งเท่าไหร่

ถ้านี่เป็นหนัง
ภาพจะตัดกลับมาที่ครูหนุ่มคนหนึ่ง หันหน้าไปมองที่กระจก แล้วพยักหน้าให้กับตัวเองในนั้น

ฮึ่ด !

 

————————————————————-

ข้อมูลเพิ่ม

2ครูจูหลิง  ปงกันมูล

ผู้ช่วยครู โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไปคุมขังไว้ในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใกล้มัสยิดประจำหมู่บ้าน และถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 เจ้าหน้าที่สามารถช่วยครูจูหลิงได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันต่อมา เนื่องจากเธอถูกตีจนสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงรับครูจูหลิงเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์โดยตลอดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

ที่มา: http://th.wikipedia.org/

 

 

  • กด like แฟนเพจ